วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

พื้นฐานอิเล็กทรอนิกส์ แบบฝึกหัดบทที่ 3

1.การโฆษณาบนเว็บ (Web Advertising) คืออะไร
-มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สินค้าและบริการของบริษัทเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคผ่านทางสื่อโฆษณาที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น

2.บอกข้อแตกต่างระหว่าง Ad Views และ Ad Click
-Ad views คือเป็นจำนวนครั้งที่ลูกค้าเห็นหน้าเว็บที่มีป้ายโฆษณา (Banner) ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งตามที่กำหนดไว้
-Ad click คือเป็นการนับจำนวนครั้งที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกที่ป้ายโฆษณาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อไปยังเว็บไซต์ปลายทาง

3.CPM (Cost Per Thousand Impression) คืออะไร
-เป็นต้นทุนที่ผู้โฆษณาจะต้องจ่ายเป็นค่าป้ายโฆษณา เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเปิดเพจโฆษณาของตนเป็นจำนวน 1,000 ครั้ง

4.Conversion Rate ของเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เยี่ยมชม 100 คน แต่มีผู้ซื้อสินค้าจริง 50 คน มีค่าเท่าใด
-Conversion Rate เท่ากับ 20%

5.Click Through Ratio เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเปิดเพจที่มีโฆษณา 150 เพจ แต่คลิกเข้าไปดูโฆษณาจริง 20 ครั้ง มีค่าเท่าใด
-Conversion Rate เท่ากับ 45%

6.บอกข้อแตกต่างระหว่าง Banner Swapping และ Banner Exchange
-Banner Swapping เป็นข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างบริษัท 2 บริษัท เพื่อแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ระหว่างกัน
-Banner Exchange เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ระหว่างบริษัทต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดขึ้น โดยสามารถจัดการแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป

7.อธิบายข้อจำกัดของการโฆษณาแบบป๊อปอัพ (Pop-Up) พอสังเขป
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
-Pop-Up Advertising เป็นโฆษณาที่แยกออกเป็นเว็บบราวเซอร์หน้าต่างใหม่ และจะปรากฏขึ้นพร้อมกับเว็บเพจที่มีโฆษณาสินค้านั้น โดย Pop-Up
-Pop-Under Advertising เป็นโฆษณาที่แยกออกเป็นเว็บบราวเซอร์หน้าต่างใหม่เช่นเดียวกับ Pop-Up แต่จะอยู่ด้านล่างของเว็บเพจที่ผู้ใช้เรียกทำงานอยู่ ดังนั้น ผู้ใช้จะต้องปิดเว็บเพจนั้นเสียก่อน จึงจะเห็นหน้าโฆษณานี้

8.ยกตัวอย่างกลยุทธ์ที่ใช้ในการโฆษณาบนเว็บมา 5 ชนิด อธิบายพอสังเขป
-กลยุทธ์เชิงรับ
-กลยุทธ์เชิงรุก
-กลยุทธ์เชิงซอนเร้น
-กลยุทธ์สะสมคะแนน
-กลยุทธ์ปากต่อปาก

9.หากบริษัทคิดค่าโฆษณาจาก Click –Through บริษัทจะต้องเสียค่าโฆษณาเท่าใด ถ้าต้องการให้มีป้ายโฆษณาปรากฏขึ้นมา 100,000 ครั้ง โดยที่ป้ายโฆษณาของบริษัทที่ปรากฏขึ้นมา 1,000 ครั้ง จะมีผู้ชมคลิกที่โฆษณา 75 ครั้ง และทุกครั้งที่ผู้ชมคลิกที่ป้ายโฆษณา บริษัทจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 5 บาท
-375 บาท

10.E-Catalog คืออะไร
- เนื่องจากในอดีตรายการสินค้าจะถูกนำเสนอในรูปแบบโบรชัวร์ (Brochure) ที่ทำจากกระดาษเป็นเอกสารแผ่นพับหรือหนังสือที่มีขนาดเล็กเท่านั้น จึงทำให้ขาดความน่าสนใจและไม่สะดวกในการเลือกชม ปัจจุบันเมื่อกระแสการโฆษณาบนเว็บได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้มีการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างแคทตาล็อกสินค้าให้มีลูกเล่นที่น่าสนใจกว่าเดิม และเรียกแคทตาล็อกสินค้าแบบนี้ว่า “E-Catalog” นั่นเอ

11.บอกข้อแตกต่างระหว่างการใช้ E-Catalog และการนำเสนอสินค้าแบบโบร์ชัวร์มา 5 ข้อ
-การสร้างและพัฒนาง่าย
-ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาถูก
-เทคโนโลยีที่ช้ไม่มาก
-การพกพาสะดวก
-รูปแบบการนำเสนอมัลติมีเดีย

12.เสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine) คืออะไร
-เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตได้ โดยจะทำหน้าที่ค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลที่มีคีย์เวิร์ด (Keyword) ตรงกับที่ผู้ใช้ระบุไว้ แล้วนำมาแสดงผลลัพธ์ด้วยกลไกการทำงานของเสิร์ชเอนจิ้น จึงช่วยลดภาระด้านต้นทุนและเวลาที่ใช้ค้นหาข้อมูลเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานด้วยมนุษย์

13.ตัวแทนปัญญา (Intelligent Agent) คืออะไร
-เป็นโปรแกรมที่มีขีดความสามารถมากกว่าเสิร์ชเอนจิ้น นิยมนำมาใช้จัดการกับงานประจำ (Routine Tasks) ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด เช่น การเฝ้าระวังการทำงานบนเว็บ โดยคอยตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ใช้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น